May 16, 2021

Job-to-be-done ทฤษฎีที่ทำให้ธุรกิจตอบโจทย์ผู้บริโภค

Chanin Nirapai
Digital Marketer
เลือกอ่านตามหัวข้อย่อย

รู้จักกับ The Spidery ทีมการตลาดออนไลน์

เรามุ่งเน้นที่ผลลัพธ์ วัดผลได้
เราวัดผลกิจกรรมทางการตลาดที่นำมาซึ่งยอดขายและผลตอบแทนจากการลงทุน
ดูแลครบจบทุกองค์ประกอบการตลาด
ประหยัดเวลาของคุณได้มากขึ้น เราดูแลทั้งกระบวนการการตลาด นำเสนอแผนที่เหมาะสมกับธุรกิจคุณมากที่สุด
ราคาเท่ากับจ้างพนักงาน
แต่คุณจะได้ทีมงานคุณภาพมากประสบการณ์ไปทั้งทีม และไม่ต้องห่วงเราทำงานเพื่อผลลัพธ์เหมือนพนักงานในบริษัทคุณ
แชร์

ไม่ว่าคุณจะเป็นผู้ประกอบการ นักการตลาด นักพัฒนาสินค้า คุณต่างก็เคยมีประสบการณ์กับการทำงานที่ไม่ได้ผลลัพธ์ออกมาอย่างที่ต้องการ ส่วนนึงอาจเป็นเพราะสิ่งที่คุณพยายามจะทำ มันไม่ได้ตอบโจยท์ที่แท้จริงของผู้บริโภค บทความนี้ก็จะมาแนะนำทฤษฎี "Job to be done" ที่จะช่วยให้คุณเข้าใจผู้บริโภคให้ลึกไปถึงแก่น

"Job to be done" คืออะไร ?

แปลเป็นไทยตรงตัวก็คือ "งานที่ต้องทำ" ถ้าเรามองในมุมลูกค้าแล้ว พวกเขาแค่ต้องการซื้อสินค้าหรือบริการของคุณเพื่อไปทำสิ่งที่เขาต้องทำให้สำเร็จลุล่วง ยกตัวอย่างลูกค้าที่ซื้อสว่าน เขาต้องการอะไรล่ะ ? จริง ๆ แล้วเขาไม่ได้ต้องการสว่านเลย เขาต้องการเพียงรูที่ผนังของพวกเขา ถ้าคุณไม่รีบร้อนคุณสามารถมองได้ลึกกว่านั้น เพราะลูกค้าอาจจะไม่ได้ต้องการรูบนผนัง เขาอาจจะต้องการสิ่งที่ช่วยให้เขานำสิ่งต่าง ๆ มาตกแต่งผนังได้โดยที่มันจะต้องแข็งแรง ไม่หล่นลงมา

"Job to be done" มีประโยชน์ยังไง ?

มีประโยชน์ทั้งในแง่ของการพัฒนาสินค้าและบริการและการสื่อสารการตลาด เราจะขอยกตัวอย่างให้เห็นภาพเรื่องราวของแมคโดนัลด์ ที่ผู้บริหารต้องการเพิ่มยอดขายมิลค์เชค โดยช่วงแรกนั้น ทางทีมงานฝ่ายการตลาดนั้นก็ประชุมกันว่าจะทำอย่างไรดีให้ตอบโจทย์ผู้บริหาร หลังจากนั้นก็พวกเขาก็เริ่มแบ่งกลุ่มลูกค้าตาม เพศ อายุ เพื่อที่จะพัฒนามิลค์เชคให้ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าแต่ละกลุ่มมากขึ้น โดยการเพิ่มรสชาติ เปลี่ยนสูตร ตามที่ลูกค้าแต่ละกลุ่มต้องการ แต่สุดท้ายผลปรากฏว่ายอดขายแทบไม่เพิ่มขึ้นเลย เจ้าของแบรนด์รถยนต์ฟอร์ด เฮนรี่ ฟอร์ด พูดเอาไว้ว่า "ถ้าคุณถามว่าลูกค้าต้องการอะไร ลูกค้าจะตอบว่าเขาต้องการม้าที่วิ่งเร็วกว่าเดิม"

หลังจากนั้นบริษัทก็ให้กลับมาทำความเข้าใจผู้บริโภคใหม่ แทนที่จะดูแต่ตัวเลขเพียงอย่างเดียว พวกเขาก็ให้คนเฝ้าดูลูกค้าตั้งแต่เช้าจรดเย็นทุกวัน และพบว่ายอดขายกว่า 40% เกิดขึ้นในช่วง 7-8 โมงเช้าและสูงมากในสาขานอกเมือง เขาพบว่าลูกค้ามักซื้อไปกินนอกร้าน เมื่อนำลูกค้ามารวมกลุ่มกันและพูดคุยพบว่าพวกเขาส่วนใหญ่เป็นพนักงานบริษัทที่ต้องการรองท้องก่อนจะถึงที่ทำงาน จริง ๆ แล้วพวกเขาไม่ได้อยากกิน "มิลค์เชค" เป็นพิเศษ แต่อยากแก้ "ปัญหา" ที่พวกเขาต้องฝ่ารถติดเข้าไปที่่ทำงาน โดนัท เบเกิลก็อร่อยสำหรับพวกเขา แต่มันไม่สะดวกสำหรับการกินระหว่างขับรถ เพราะทำให้มือเลอะ เครื่องดื่มอื่น ๆ ก็ละลายเร็วเกินไป และไม่อยู่ท้อง ทั้งหมดนี้ทำให้พวกเขาเลือก "จ้าง" มิลค์เชคในการทำหน้าที่นี้

เมื่อพวกเขาเข้าใจ Job to be done ของผู้บริโภคแล้วพวกเขาจึงเริ่มเปิดสาขารอบเมืองในลักษณะ Drive-Thru ทำให้คนไม่ต้องเสียเวลาลงจากรถเพื่อซื้ออาหารเช้า นอกจากนั้นเขาก็เปลี่ยนสูตรมิลค์เชค ให้ตอบโจทย์มากยิ่งขึ้นโดยการใส่วุ้น หรือเยลลี่ เพื่อให้อยู่ท้องมากขึ้น ยอดขายก็เพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว

"Job to be done" มีกี่แบบ

ถ้าคุณถามทำไมจนสุดทางแล้ว คำตอบที่ได้จะหนีไม่พ้นงาน 3 ประเภทนี้ที่พวกเขาจะจ้าง
1. งานด้านแรงงาน (Function) เช่น การทำงานบางอย่างให้เสร็จ
2. งานด้านอารมณ์ (Emotion) เช่น การดูหนังเพื่อความบรรเทิง
3. งานด้านสังคม (Social) เช่น การเป็นที่สนใจ เป็นที่ยอมรับของผู้อื่น

เราจะหา "Job to be done" ของลูกค้าได้ยังไง ?

การหา "Job to be done" คุณสามารถใช้คำถามว่า "ทำไม" กับผู้บริโภคของคุณได้ อย่างเช่นคุณซื้อสว่านไปทำไมครับ ? คุณก็จะได้คำตอบ แต่โดยทั่วไปแล้วคุณจะไม่ได้คำตอบกับการถาม "ทำไม" เพียงครั้งเดียว สิ่งที่คุณต้องทำคือการถามทำไมไปเรื่อย ๆ จนกว่าเขาจะไม่สามารถตอบมันได้อีกต่อไป

ยกตัวอย่างเจ้าของบ้าน
ทำไมคุณถึงซื้อสว่าน : ไว้ใช้เจาะรูกำแพงจ้า
ทำไมคุณถึงเจาะรูกำแพง : จะได้แขวนของตกแต่งบ้าน
ทำไมคุณถึงต้องตกแต่งบ้าน : เพื่อทำให้บ้านน่าอยู่ขึ้น
จากตัวอย่างจะเห็นได้ว่า "Job to be done" ของเขาเป็นเรื่องของอารมณ์ (Emotion)

ยกตัวอย่างช่างตกแต่งภายใน
ทำไมคุณถึงซื้อสว่าน : ไว้ใช้เจาะรูกำแพงครับ
ทำไมคุณถึงเจาะรูกำแพง : จะได้แขวนของตกแต่งบ้าน
ทำไมคุณถึงต้องตกแต่งบ้าน : เพื่อทำงานของลูกค้าให้เสร็จตามความต้องการ
จากตัวอย่างจะเห็นได้ว่า "Job to be done" ของเขาเป็นเรื่องของ (Function)

หวังว่าทั้งหมดนี้จะทำให้คุณเข้าใจผู้บริโภคให้ลึกไปถึงแก่น และได้โจทย์ไปใช้พัฒนาธุรกิจของคุณต่อไปบนความต้องการที่แท้จริงของผู้บริโภค หากมีคำถามหรือข้อโต้แย้งสามารถคอมเมนต์แลกเปลี่ยนกันได้เลย หากชอบคอนเทนต์แบบนี้ฝากกดแชร์เพื่อเป็นประโยชน์กับเพื่อน ๆ ที่กำลังสนุกกับการทำธุรกิจแล้วเติบโตไปด้วยกัน

แหล่งที่มา : Marketingoops, Thestandard, Noobhoon

บทความนี้มีประโยชน์
มากน้อยเพียงใด ?
Thank you! Your submission has been received!
Oops! Something went wrong while submitting the form.
Chanin.N
test test test test test test test test test test test test test test test test test test test test test test test test test test test
Thank you! Your submission has been received!
Oops! Something went wrong while submitting the form.

บทความแนะนำ

ดูบทความทั้งหมด →

STP คืออะไร วิธีใช้ให้เกิดประโยชน์ในการทำตลาดพร้อมตัวอย่าง

เสื้อไซต์เดียวไม่สามารถทำให้ใส่ได้ทุกคน การเลือกกลุ่มเป้าหมายในตลาดเพื่อขายสินค้าและบริการก็เช่นเดียวกัน STP Marketing จะเข้ามาช่วยวิเคราะห์ความเหมาะสมระหว่างสินค้าและบริการกับกลุ่มเป้าหมาย

อ่านต่อ →

TOWS Matrix คืออะไร ช่วยคุณวางกลยุทธ์ให้ดีขึ้นได้อย่างไร

หากคุณค้นหาและวิเคราะห์ข้อมูลมาแล้วไม่สามารถนำมาวางกลยุทธ์ได้อย่างมั่นใจว่าครอบคลุมทุกมุมมอง TOWS Matrix จะมาช่วยวางกลยุทธ์ได้อย่างรัดกุมมากยิ่งขึ้น

อ่านต่อ →

Vision, Mission, Value คืออะไร ถ้าไม่มีจะส่งผลกับธุรกิจอย่างไร

ปัญหาหลาย ๆ อย่างเกิดขึ้นกับธุรกิจจากการมีทิศทางขององค์กรไม่ชัดเจน การสร้าง Vision, Mission, Value ขององค์กรของคุณจะช่วยประหยัดทรัพยากรณ์และลดข้อผิดพลาดได้ในระยะยาว

อ่านต่อ →

บริษัทการตลาดออนไลน์ที่ดูแลคุณแบบครบรอบด้าน ช่วยธุรกิจคุณเติบโตได้เร็วและคุ้มค่ากว่าที่เคย

©Copyright 2023 by The Spidery. All rights reserved  Privacy Policy Cookie Setting