ทำอย่างไรให้ยอดขายเพิ่มจากเทคนิคอัพเซลล์ ครอสเซลล์และดาวน์เซลล์

"บทความนี้เราจะมานำเสนอเทคนิคการขายที่ตอบคำถามว่าทำอย่างไรให้ยอดขายเพิ่ม คุณอาจจะเคยได้ยินมาบ้างแล้วกับคำว่า อัพเซลล์(Up-sell) ครอสเซลล์(Cross-sell) และดาวน์เซลล์(Down-sell) แต่อย่างที่บอกมันเป็นเพียงส่วนของเทคนิคนึงเท่านั้น อย่าลืมว่าคุณต้องดูแลอีกหลายปัจจัยที่จะทำให้ยอดขายของคุณเติบโต

‍

มาเริ่มกันที่อย่างแรก อัพเซลล์(Up-sell)

มันเป็นการขายสินค้าที่มีราคาแพงกว่าให้กับลูกค้า เพื่อที่คุณจะได้รับเงินมากกว่าการขายปกติ โดยการทำให้ลูกค้าเชื่อว่าเขาจะได้รับสินค้าหรือบริการที่ดีกว่าในราคาที่ต้องจ่ายมากกว่าเดิมเล็กน้อย คุณควรพิสูจน์ให้ลูกค้าเห็นว่ามันคุ้มค่าที่จะจ่ายเงินเพิ่มเติมอีกนิดเดียวแต่ได้สินค้าที่ดีกว่าเดิมมาก

ตัวอย่าง จากร้านเบอร์เกอร์ ถ้าคุณซื้อชีสเบอร์เกอร์ที่มีเนื้อและชีสแค่ชั้นเดียวในราคา 75 บาทคุณอาจไม่รู้สึกอะไร แต่ถ้าหากพนักงานแนะนำให้คุณรับเป็นดับเบิ้ลชีสเบอร์เกอร์ที่มีเนื้อและชีส 2 ชั้นในราคา 95 บาท เพิ่มขึ้นมาแค่เพียง 20 บาท คุณจะรู้สึกคุ้มค่ากว่าไหมล่ะ?

‍

อย่างที่สอง ครอสเซลล์(Cross-sell)

มันเป็นการขายสินค้าที่เกี่ยวข้องให้กับลูกค้าที่กำลังซื้อสินค้าอะไรซักอย่างอยู่ เช่นเดิมเพื่อเป็นการรับเงินมากกว่าการขายปกติ โดยการแนะนำสินค้าที่ลูกค้าสามารถใช้กับสินค้าที่ลูกค้ากำลังซื้อได้ คุณควรแนะนำด้วยความหวังดีจริง ๆ ไม่ไช่ความต้องการในการเพิ่มยอดขายเท่านั้น

ตัวอย่าง จากร้านเบอร์เกอร์ ถ้าคุณเดินดุ่ม ๆ ไปที่เคาน์เตอร์แล้วสั่งเบอร์เกอร์ 1 ชิ้น พนักงานก็จะทำหน้าที่แนะนำคุณว่า ""1 ชิ้นจะราคา 75 บาท สนใจรับเป็นชุดไหมค่ะ จะได้รับเครื่องดื่มและเฟรนช์ฟรายด์ด้วย"" เพราะถ้าคุณทานเบอร์เกอร์เฉย ๆ โดยไม่กินน้ำมันก็ไม่ปกติแล้วสำหรับคนทั่วไป แถมเฟรนช์ฟรายด์ก็อร่อยเข้ากับเบอร์เกอร์ซะด้วย ก็ไม่แปลกที่ลูกค้าจะยอดจ่ายจากแค่เบอร์เกอร์ชิ้นเดียวราคา 75 บาท เป็นชุดเบอร์เกอร์ที่มีเฟรนช์ฟรายด์และน้ำในราคา 135 บาท เห็นไหมว่ายอดเพิ่มเห็น ๆ

‍

อย่างที่สาม ดาวน์เซลล์(Down-sell)

มันเป็นการเสนอตัวเลือกให้ลูกค้าในกรณีที่ลูกค้าเลือกที่จะไม่ซื้อสินค้าที่เราแนะนำ โดยการที่คุณนำเสนอสินค้าที่ไกล้เคียงกับสินค้าที่ลูกค้าสนใจแต่อยู่ในงบประมาณที่ลูกค้ารับไหว เพราะการขายได้น้อยดีกว่าขายไม่ได้เลย ที่สำคัญอย่าลืมว่ามันไม่ไช่การลดราคา แต่เป็นการนำเสนอตัวเลือกอื่นที่ราคาถูกลงให้กับลูกค้า

ตัวอย่าง จากร้านเบอร์เกอร์ ถ้าหากลูกค้าเข้าร้านมาด้วยความต้องการที่จะทานเบอร์เกอร์เนื้อ พนักงานก็ได้แนะนำเบอร์เกอร์เนื้อโคขุนนำเข้าจากต่างประเทศในราคา 245 บาท แต่ลูกค้ามีงบอยู่แค่ 200 บาท พนักงานก็เลยแนะนำเบอร์เกอร์เนื้อสูตรปกติให้กับลูกค้าในราคา 150 แทนที่จะบอกปัดไปเลยว่าไม่มีและไม่แนะนำสินค้าไกล้เคียงให้ที่มันปิดกั้นโอกาสในการสร้างยอดขายให้กันร้าน

‍

สรุป

สิ่งนี้เป็นเทคนิคการขายอย่างหนึ่งที่ช่วยให้ธุรกิจคุณสร้างรายได้ได้มากขึ้น อย่าลืมนำไปปรับใช้ให้เข้ากับการขายสินค้าหรือบริการของธุรกิจคุณล่ะ

‍

หากมีคำถามหรือข้อโต้แย้งสามารถคอมเมนต์แลกเปลี่ยนกันได้เลย! หากชอบคอนเทนต์แบบนี้ฝากกดแชร์เพื่อเป็นประโยชน์กับเพื่อน ๆ ที่กำลังสนุกกับการทำธุรกิจแล้วเติบโตไปด้วยกัน

‍