นอกจากการทำการค้นคว้าวิจัยแล้วการทำ A/B testing หรือการทดสอบรูปแบบขององค์ประกอบต่าง ๆ จะช่วยหาว่าองค์ประกอบไหนที่มีประสิทธิภาพที่สุดตามเป้าหมายที่เราต้องการ และเมื่อพูดถึง A/B testing ในแง่ของการตลาดแล้วละก็เราสามารถนำมันมาใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำการตลาด แต่เราจะใช้มันได้อย่างไรบ้าง ไปดูกันเลย
หากเราต้องการทำแคมเปญการตลาดแต่ยังมีคำถามอยู่ในหัวอยู่เลยว่าเราจะใช้ลูกค้าเป้าหมายแบบไหน เพศอะไร อายุเท่าไหร่ อาศัยอยู่ที่ไหน เราก็สามารถนำกลุ่มเป้าหมายที่พอเป็นไปได้มาทดสอบเพื่อหาว่ากลุ่มไหนจะให้ผลลัพท์ตามที่เราต้องการมากที่สุด
หากเรากำลังจะปล่อยแคปเปญการตลาด แต่ไม่แน่ใจว่าจะสื่อสารอย่างไรดี เช่น เราควรจะให้โปรโมชั่นแบบไหนระหว่าง "ซื้อ 1 แถม 1" หรือ "ส่วนลด 50%" เพื่อที่จะหาว่าแบบไหนจะก่อให้เกิดยอดสั่งซื้อมากกว่ากัน
หากเราอยากรู้ว่าโฆษณาเราไปแสดงที่ไหนจะได้ผลลัพท์มากกว่ากัน เช่น หากเราต้องการให้คนทักแชทเราก็สามารถทดสอบโดยการให้โฆษณาของเราไปแสดงบน Facebook หรือ IG และรอดูผลลัพท์ได้เลยว่าจากที่ไหนที่มีผลลัพท์มากกว่ากัน
หากคุณเห็นว่าเว็บไซต์มีคนคลิกเข้าไปดูสินค้าหรือบริการของคุณน้อยมาก คุณสามารถลองเปลี่ยนสีของปุ่มที่คลิกแล้วจะพาลูกค้าเข้าไปที่หน้าสินค้า แต่ถ้าคุณไม่รู้จะใช้สีอะไรดีระหว่าง เขียว แดง น้ำเงิน คุณก็สามารถทดสอบแล้วดูผลลัพท์ได้ว่าสีไหนที่ทำให้คนคลิกเข้ามาดูมากกว่ากัน แม้แต่ทาง Google เองก็ทดสอบสีของลิงก์ด้วยสีน้ำเงินแต่เป็นสีน้ำเงินจาก 41 เฉด
1. การทดสอบควรใช้เครื่องมือที่เหมาะสมและถูกต้อง
2. การทดสอบควรมีปริมาณของผู้ร่วมทดสอบที่มากพอ (ในแต่ละเครื่องมือจะมีบอก)
3. การทดสอบควรใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 3-4 วัน
4. การทดสอบสามารถทดสอบได้มากกว่า 2 องค์ประกอบ
หากมีคำถามหรือข้อโตแย้งสามารถคอมเมนต์แลกเปลี่ยนกันได้เลย! หากชอบคอนเทนต์แบบนี้ฝากกดแชร์เพื่อเป็นประโยชน์กับเพื่อน ๆ ที่กำลังสนุกกับการทำธุรกิจแล้วเติบโตไปด้วยกัน"
©Copyright 2022 by The Spidery. All rights reserved Privacy Policy